โจวเจี๋ยหลุน (จีนตัวย่อ: ???; จีนตัวเต็ม: ???; พินอิน: Zh?u Ji?l?n) หรือ เจย์ โจว (อังกฤษ: Jay Chou) เกิดเมื่อ 18 มกราคม ค.ศ. 1979 เป็นนักร้อง ,นักแต่งเพลง ,นักดนตรี ,โปรดิวเซอร์ ที่มีชื่อเสียงในไต้หวัน
โจวเจี๋ยหลุน เกิดและโตในไต้หวัน ถูกเลี้ยงมาโดยแม่ของเขาซึ่งเป็นอาจารย์สอนอยู่ในโรงเรียนมัธยมในไต้หวัน ในวัยเด็กเจย์เป็นคนที่เรียนหนังสือไม่เก่งนัก แต่เป็นคนที่เก่งกาจในทางดนตรี เขาเริ่มเล่นเปียโน ตั้งแต่อายุ 3 ปี นอกจากนั้นยังเล่น กลอง,เชลโล่ และกีต้าร์ พ่อกับแม่หย่ากันตอนเขาอายุ 14 ทำให้เขาเป็นคนเงียบ และสันโดษ เจย์อาศัยอยู่กับแม่และคุณยาย เขาเรียนเอกเปียโนที่ Dan Jiang Senior High School ปี 1996 เจย์ไม่เรียนต่อที่มหาวิทยาลัย แต่เลือกที่จะเป็นเด็กเสิร์ฟตามร้านอาหาร เขาเริ่มเข้าสู่วงการเพลง โดยโชว์ความสามารถเปียโน รายการการประกวด ????? (Super New Talent King) ผู้ผลิตรายการเห็นความสามารถของเขาจึงชักชวนเข้าสู่วงการ ในฐานะนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ ให้กับศิลปินดังๆอย่าง โคโค่ ลี, หลิว เต๋อหัว, กัว ฟู่เฉิง, วิเวียน ซู, โจลิน ไซ เป็นต้น
เจย์ โจวเป็นที่ยอมรับในความสามารถทางดนตรีที่หาตัวจับยาก ทั้งแต่งเพลงและโพรดิวซ์เพลงเอง รวมทั้งเล่นดนตรีได้หลายชนิดทั้งเครื่องดนตรีตะวันตกและตะวันออก เขาผสมผสานสิ่งเหล่านี้ไว้ในงานเพลงของเขา ดนตรีของเจย์โดดเด่นทั้งด้านทำนองและเนื้อร้องที่ลุ่มลึก นอกจากงานเพลงแล้วเจย์ยังเป็นนักแสดงในภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จระดับเอเชีย นั่นทำให้เขาสนใจในด้านการกำกับการแสดง เจย์ได้แสดงฝีมือการกำกับเอาไว้ในมิวสิกวิดีโอหลายๆเพลงของเขา ด้วยความสามารถเหล่านี้เองจึงทำให้เขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆของเอเชีย ทั้งในไต้หวัน,จีน,ฮ่องกง,สิงคโปร์,มาเลเซีย,อินโดนีเชีย,ไทย และญี่ปุ่น เจย์ยังโด่งดังในหมู่ชาวจีนโพ้นทะเลในสหรัฐอเมริกา,อังกฤษ,ออสเตรเลีย และแคนาดา
ในปี 2000 เขาได้ออกอัลบั้มแรก Jay (???????) ภายใต้สังกัด Alfa Music อัลบั้มชุดนี้ประสบความสำเร็จในไต้หวัน รวมไปถึง จีน ฮ่องกง มาเก๊า ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และ สิงคโปร์ ทำให้เจย์สามารถพิชิตรางวัล Best New Artist และ Best Album จาก Golden Melody Awards ซึ่งเปรียบเหมือนรางวัลแกรมมี่แห่งวงการเพลงไต้หวัน
เมื่ออัลบั้มที่ 2 ออก Fantasy (???) ก็ทำให้เขาขึ้นสู่อันดับสูงสุดในวงการเพลงเอเชีย อัลบั้มนี้ได้รับการตอบรับจากนักฟังเพลงทั่วเอเชีย มีเพลงฮิตอย่าง Love Before The Century (?????-Ai Zai Xi Yuan Qian), Silence (??-An Jing) และ Dad, I'm Back (?,????-Ba Wo Hui Lai Le) ซึ่งเนื้อร้องที่เกี่ยวกับความรุนแรงภายในครอบครัวนั้น จับใจผู้ฟังอย่างมาก
อัลบั้มที่ 3 Eight Dimensions (????) ในปี 2002 ก็ประสบความสำเร็จยิ่งกว่า ในอัลบั้มนี้เจย์ตอกย้ำสถานะการเป็นซูเปอร์สตาร์แห่งเอเชียด้วยการคว้ารางวัล Best Asian Artist จากเอ็มทีวี วิดีโอ มิวสิก อวอร์ดส เจแปนและคว้า Golden Melody Awards ไปถึง 5 สาขา ตามติดด้วยการคว้า Favorite Artist Taiwan จากเอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดส ที่ทุกคนประทับใจในการแสดงที่ยอดเยี่ยมของเขาในงานวันนั้น ด้วยความสำเร็จอย่างมหาศาลในอัลบั้มชุดนี้ เจย์ได้รับเกียรติจากนิตยสาร TIME ให้ขึ้นปกในเดือนมีนาคม 2003 พร้อมกันนี้เจย์ยังได้เซ็นสัญญาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับเป๊บซี่และ โทรศัพท์มือถือพานาโซนิก อีกด้วย
อัลบั้มที่ 4 ในปี 2003 ตั้งตามชื่อแม่ของเขา Ye Hui Mei (???) โดยเขาไม่กลัวเลยที่จะทดลองสิ่งใหม่ ในเพลง In The Name Of The Father (????-Yi Fu Zhi Ming) เขาได้นำกลิ่นอายของเพลงตะวันออกผสานเสียงร้องแบบโอเปร่าได้อย่างลงตัว และในอัลบั้มชุดที่สี่นี้เจย์ก็คว้า Golden Melody Awards ในสาขา Best Album และ Best Music Video มาครอง พร้อมกับเปิดการแสดงที่ MGM Grand Caesar Palace เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งบัตรขายหมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็ว ในปีนี้เจย์ได้ออกทัวร์รอบโลกทั้งใน เอเชีย อเมริกา และแคนาดา
อัลบั้มที่ 5 ในปี 2004 ชื่อ Common Jasmin Orange อัลบั้มนี้ เจย์ได้ใช้กรอบของบทกลอนของกวีชื่อ สีมู่หรง บทกลอนมีชื่อว่า "ชีหลี่เซียง" (??? Common Jasmin Orange หรือ หอมไกล 7 ลี้) โดย เจย์ นำชื่อของบทกลอนนี้มาเป็นชื่ออัมบั้มและซิงเกิ้ลแรกที่มีชื่อเดียวกัน เพลงนี้ได้ฟางเหวินซาน มาเขียนเนื้อร้องให้ ซึ่งจะคล้ายๆกับการเขียนบทกลอน ซึ่งการนำกลอนมาใช้ในงานครั้งนี้เปรียบเสมือนว่าเจย์กำลังจะนำคลื่นกระแสเพลงที่เป็นกลอนกลับมาอีกครั้ง ในอัลบั้มชุดนี้เจย์ได้รับรางวัล World’s Best-Selling Chinese Artist จาก World Music Awards ที่ลาสเวกัส พร้อม World Tour ที่มีไฮไลท์อยู่ที่การเปิดการแสดงที่ Shrine Auditorium ในลอสแอนเจลิส สถานที่แจกรางวัลออสการ์อันโด่งดัง ในเดือนกุมภาพันธ์ 2005 เจย์ โชว ได้รับรางวัล Favorite Artist Taiwan เป็นครั้งที่สอง จากงาน MTV Asia Aid ที่ Impact Arena กรุงเทพฯ ในค่ำคืนนั้นเจย์เล่นเปียโนในเพลง Snail ที่มีความหมายให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัยสึนามิ และเพลง Common Jasmin Orange เพลงเด่นจากสตูดิโออัลบั้มล่าสุดของเขา
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้ร่วมเล่นหนังเรื่อง Initial D ที่สร้างมาจากการ์ตูนญี่ปุ่น เจย์ได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่จาก 42nd Golden Horse Awards และ ได้รับรางวัลจากการแสดงจาก 25th Hong Kong Film Awards ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จมากในเอเชียและประเทศตะวันตก โดยเขาได้ร่วมแสดงกับนักแสดงชั้นนำอย่าง แอน ซูซูกิ, เฉินเสี่ยวชุน, เฉินกวนซี, หยูเหวินเล่อ, ตู้เหวินเจ๋อ และ หวงซิวเซิน
อัลบั้ม Initial J อัลบั้มรวมฮิตออกจำหน่ายที่ญี่ปุ่นเท่านั้น รวม 11 เพลงฮิตจากอัลบั้มต่างๆของเขา และ 8 มิวสิกวิดีโอ
อัลบั้มที่ 6 ชื่อ November's Chopin (??????) ออกจำหน่ายเดือนพฤศจิกายน ปี 2005 โดยมีเพลง "Nocturne" (??) ที่ได้รับอิทธิพลจากโชแปง ซึ่งเป็นนักคีตกวีคนโปรดของเจย์
มกราคม 2006 ได้ออก EP ชุด Huo Yuan Jia (???) ที่เป็นเพลงประกอบหนังเรื่อง Fearless ของ เจ็ต ลี หรือ หลี่เหลียนเจี๋ย ซึ่งเป็นนักแสดงในดวงใจของเจย์
อัลบั้มที่ 8 On The Run (???) ออกวางขายวันที่ 2 พฤศจิกายน 2007 ที่ไต้หวันและฮ่องกง โดยมี "The Cowboy On The Run" (????)เป็นซิงเกิ้ลแรก "Rainbow" (??)เป็นซิงเกิ้ลที่สอง และ "Unparalleled" (??) เป็นซิงเกิ้ลที่สามที่ออกเผยแพร่ทางวิทยุฮิตเอฟเอ็ม และอัลบั้มนี้ก็เป็นอัลบั้มแรกที่เจย์ ผลิตออกมาภายใต้บริษัทใหม่ซึ่งเป็นบริษัทของเขาเองคือ JVR Music ในมิวสิกวิดีโอเพลง ‘Cowboy On The Run’ กับแนวคาวบอย เอ็มวีตัวนี้ที่ทุ่มทุนไปกว่า 3.5 ล้านเหรียญไต้ไหวัน โดยได้เจย์ทำหน้าที่เป็นทั้งผู้กำกับและนักแสดงเองด้วย
อัลบั้มที่ 9 Capricorn (???) ออกวางขายที่ฮ่องกงและไต้หวัน วันที่ 15 ตุลาคม 2008 โดยมี Rice Aroma (??) เป็นซิงเกิ้ลแรก ซึ่งแต่งเนื้อร้องและทำนองโดยเจย์
อัลบั้มที่ 10 The Era (???) ออกวางขายที่ฮ่องกงและไต้หวัน วันที่ 18 พฤษภาคม 2010 โดยมี Superman Can't Fly (?????) เป็นซิงเกิ้ลแรก ซึ่งแต่งเนื้อร้องและทำนองโดยเจย์
นอกจากนี้เจย์ได้ร่วมแสดงหนังจากผู้กำกับ จางอี้โหมว เรื่อง ศึกโค่นบัลลังก์วังทอง (Curse of the Golden Flower) ร่วมกับนักแสดงระดับโลกอย่าง โจวเหวินฟะ และ กงลี่ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ทุ่มทุนสร้างกว่า 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนจากจีน ให้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม ในเดือนกุมภาพันธ์ 2007 และเจย์ยังจะแสดงนำในเรื่อง สแลมดังก์ ที่สร้างจากการ์ตูนญี่ปุ่นยอดฮิตชื่อเดียวกัน แต่เนื่องจากเนื้อหาในภาพยนตร์ได้มีการนำเอาศิลปะกังฟูมาใช้ประกอบกับการเล่นบาสเก็ตบอล ปัจจุบันจึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น กังฟูดังก์
ส่วนผลงานภาพยนตร์จากผลงานการกำกับของเจย์เองคือเรื่อง รักเรา กัลปาวสาน (Secret) ซึ่งเจย์ได้นำแสดงร่วมกับ เกย ลุน เม่ย
นอกจากนี้ เจย์ยังมีชื่อเป็นศิลปินที่ร่วมใน พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 ที่จัดขึ้นในวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ร่วมกับ เซลีน ดิออน และศิลปินอีกมาก ณ สนามกีฬาแห่งชาติปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งเป็นการร่วมงานกับจาง อี้โหมว เป็นครั้งที่สอง ต่อจากภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2549 แต่ไม่ได้ไปแสดงโดยให้เหตุผลว่าไม่ถนัดแนวนี้
เมื่อต้นปี 2552 ได้ถูกสัมภาษณ์ในรายการ Talk asia ของสถานีข่าว CNN ในฐานะนักร้องที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในเอเชีย